วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คำสั่งที่น่าสนใจของ Imacros


     ช่วงนี้ผมสนใจเจ้า Imacros อยู่ครับ มันคือ add on บน Web Browser ซึ่งรองรับทั้ง Firefox , Chorme , IE และมีตัวเต็ม ซึ่งจะเป็นในรูปแบบของโปรแกรม Imacros เลยครับ และต้องเสียตังค์ซื้อ จุดเด่นของมัน คือ สามารถบันทึกการทำงานบางอย่างที่เกิดขึ้นซ้ำๆ บนหน้าWeb Page ของเราครับ

     Imacros มันจะช่วยทุ่นเวลาให้เราได้อย่างมากเลยครับ เช่น มีประโยชน์ต่อการโพสข้อความทำ SEO ตามเว็บต่างๆ เช่นการโพสสินค้าตามเว็บบอร์ดต่างๆ ซึ่งจะทำให้สะดวกและรวดเร็ว โดยที่เราไม่จำเป็นต้องโพสเองทีละเว็บ โดยเราสามารถทำให้สินค้าของเราสามารถโพสกระจายไปยังเว็บต่างๆโดยอัตโนมัติเพียงคลิกเดียว

ถ้าให้ผมแนะนำว่าจะให้ add on ของ Imacros ใช้กับ Web Browser เจ้าไหนดี แนะนำเลยครับว่า ให้ใช้ Firefox
จะดีที่สุดครับ ดาวนโหลดได้จาก https://addons.mozilla.org/en-us/firefox/addon/imacros-for-firefox/
เพราะทำงานได้ไวดี ไม่หน่วง ไม่เออเร่อ โอเคที่สุดแล้วครับ ถ้าเป็น Chrome หรือ IE บางครั้งก็มีค้างอยู่เหมือนกันครับ

ถ้าอยากรู้วิธีใช้งาน สามารถหาอ่านตามเว็บต่างๆได้เลย เพราะมีให้เลือกศึกษาเยอะเลยครับ แต่ที่แนะนำคือเว็บ http://www.hackublog.com/search/label/iMacros?&max-results=3  ซึ่งจะเขียนได้ละเอียดดีครับ

     สำหรับผมจะขอข้ามขั้นตอนพื้นฐานไปเลย เพราะมีคนเขียนไว้แล้ว ตามเว็บที่แนะนำข้างต้น
ผมจะขอรวบรวมคำสั่งต่างๆ ที่สำคัญของ Imacros เอาไว้เตือนความจำของตัวเองหรือคนอื่นที่สนใจเรื่องของ Imacros ด้วยครับ

วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556

การตรวจสอบขนาดตัวอักษรในช่อง Input ด้วย Jquery

     วันนี้ได้ลองเขียนโค๊ด Jquery ตรวจสอบขนาดตัวอักษรในช่อง Input ดูครับ ในกรณีที่เราต้องการให้กรอกตัวอักษรไม่เกินกว่าขนาดที่กำหนดไว้ ความสามารถของมันคือ จะตัดคำให้อัตโนมัติ ให้เหลือเท่ากับจำนวนที่เรากำหนดเท่านั้น ในกรณีที่กรอกขนาดเกินกว่าที่กำหนดครับ สามารถนำใช้ได้กับ Tag Input  ที่เป็น textfield กับ textarea ได้เลย

มาดูโค๊ดกันเลย
ส่วนของ Jquery ใช้คำสั่งดังนี้ครับ
<script type="text/javascript" src="http://code.jquery.com/jquery-1.10.1.min.js"></script>
<script type="text/javascript">
 function lenText(ele, len,show_count_area) {
                var strlen = ele.val().length;
                var w = ''; for (var i = 0; i < len; i++) {var x = ele.val().charAt(i); w += x; }
                var result_char=(len*1)-(strlen*1);
                if(result_char>=0){ $('.'+show_count_area).html(result_char);}
                ele.val(w);
            }
</script>

บรรทัดที่ 1 คือการเรียกใช้ไฟล์ jquery (Javascript Framework)
บรรทัดที่ 2 คือฟังก์ชั่น lenText ทำหน้าที่เช็คจำนวนตัวอักษรในช่อง Input ของเราครับ

เวลาใช้งานฟังก์ชั่นนี้ให้ใช้คำสั่งใน Input Tag ของเราดังนี้

<input name="input1" type="text" id="input1" size="50"  onkeyup="lenText($(this), 65,'showctext')"/> 
  <span  style="color:green;">(<span class="showctext">65</span>)</span>
* ไม่เกิน 65 ตัวอักษร<br />

เราจะให้ฟังก์ชั่น lenText ทำงานเมื่อมีคีย์ข้อมูลเกิดขึ้น คือคำสั่ง onkeyup="lenText($(this), 65,'showctext')"
โดยที่มีพารามิเตอร์ ดังนี้
1.$(this) หมายถึง input ตัวปัจจุบันที่เราคีย์ข้อมูลอยู่ครับ เราสามารถใช้ได้กับ Input หลายตัวได้เลย
2.65 คือ ขนาดตัวอักษรที่จะใช้ตรวจว่าต้องไม่เกิน 65 ตัวอักษร เราสามารถกำหนดขนาดตรงนี้ได้เลย
3.showtext คือ ชิ้อของ Att Class ที่เราจะให้แสดงขนาดตัวอักษรทั้งหมดที่เราได้ใช้ไปครับ ว่าตอนนี้เหลืออยู่เท่าไหร่

วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556

การใช้ฐานข้อมูล SQLITE ร่วมกับ PHP

     ตอนนี้ผมมีความคิดที่อยากลองนำฐานข้อมูล SQLITE มาใช้จัดเก็บข้อมูลในระบบแชทครับ ซึ่ง SQLITE เป็นฐานข้อมูลขนาดเล็ก เหมือนกับ MS-ACCESS นั้นแหละครับ แต่ข้อดีของมันคือ ฟรี ใช้ได้ไม่จำกัดระบบปฏิบัติการ และมีความสามารถใน การจัดเก็บและจัดการข้อมูลได้มีประสิทธิภาพ ในปริมาณข้อมูลที่มากกว่า MS-ACCESS ครับ
     ส่วนมากแล้วจะนิยมใช้ร่วมกับ การพัฒนาแอฟบนมือถือ เช่น android  เพื่อใช้จัดเก็บข้อมูลทั้งหมดที่ทำงานบนมือถือ เช่น การตั้งค่าต่างๆ ,ข้อมูลการโทรเข้า-ออก รายชื่อเบอร์โทรติดต่อ ฯลฯ รวมถึง Web Browser อย่างเช่น Firefox ก็ใช้ SQLITE จัดเก็บข้อมูลเหมือนกันนะครับ เช่น ประวัติการเข้าเว็บ, ที่คั้นหน้า , การตั้งค่าต่างๆ ฯลฯ PHP เองก็มี Class ที่สร้างเอาไว้ติดต่อกับ SQLITE อยู่ครับ เราสามารถเรียกใช้ได้เลยทันที

มาดูวิธีใช้งานแบบง่ายๆในแบบของผมกันเลยครับ

1.อันดับแรกให้ติดตั้ง Add on ของ Firefox ชื่อว่า SQLite Manager ตัวนี้ก่อน -> https://addons.mozilla.org/en-us/firefox/addon/sqlite-manager/

2.เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วให้เปิดโปรแกรมตัวนี้ขึ้นมา โดยไปที่ เครื่องมือ >> SQLite Manager ดังรูป


3.เมื่อโปรแกรมแสดงขึ้นมา ให้เราสร้างฐานข้อมูล โดยไปที่เมนู Database >> New Database ดังรูป
3.ให้ใส่ชื่อฐานข้อมูล ตัวอย่างผมชื่อว่า db_test เมื่อกด ตกลง แล้วมันจะให้เราเลือกที่อยุ่จัดเก็บไฟล์ db_test.sqlite คุณสามารถเลือกที่จัดเก็บได้ตามต้องการ